..มนต์รักลูกกระโปก...(นกป. Part 2 ) 18+
โชคดีที่”อ้ายกบ”ได้อาบน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์จากหลวงพ่อวัดละแวกบ้านที่อาศัยอยู่ ร่างกายจึงคงกระพันรอดชีวิตจากครั้งที่แล้วมาได้และซุ่มตัวรักษาอาการบาดเจ็บที่ทุ่งสามโคกได้สักระยะหนึ่งจนกระทั่งความซ่าส์เริ่มกลับมาเหมือนเดิม
อ้ายแบงค์แห่งบางบัวทองได้ส่งนกพิราบสื่อสารมาส่งข่าว ด้วยความหิวโหย บักกบเลยจับเอานกพิราบมาทอดกิน หลังจากที่อดอยากมานาน..
พอเริ่มอิ่มถึงเจอ SMS ที่ผูกมากับตีนนก ความว่า
".. ตะวันคล้อยถอยห่างที่บางกอก กิ๊บชํ้าชอกคํานึงถึงพี่กบมนต์เพลงขลุ่ยหวานฉํ่าเคยพานพบ แดนสวรรค์บนพิภพต้องห่างไกล..
(แหงละซิ..ขลุ่ยอ้ายกบหวานโครตๆๆ)
ยังคุ้นกลิ่นเตียงเก่าสองเราเคย อิงเขนยร่วมท่าทางรู้บ้างไหม
(ท่าไหนบ้างก็ไม่รู้..เยอะจัด หุหุ..)
คลอเคลียเคล้าน้ำคำหวานจับใจ ยังครองใจกิ๊บมั่นทุกวันคืน.."
นี่คงเป็นข้อความที่น้องกิ๊บฝากให้อ้ายแบงค์ส่งต่อมาให้เป็นแน่ ใจบักกบยังคำนึงถึงแม่หญิงงามแห่งปากเกร็ดคนนี้นัก หลังจากที่เคยเจอกันจากครั้งที่แล้ว นึกคึกคักๆๆใจมันเต้นตั๊กตึ๊ก อยากประหน้าอีกสักคราจึงตอบSMSตกลงคอนเฟิร์มนัดวันเวลาไปกับซี่โครงนกพิราบตัวเดิม ให้บินกลับไปหาเจ้าของมัน (โม้จริงๆ)
..........................................................
การเดินทางมาร่วมสมทบกับสหายรัก อ้ายกบควบควายสีหมอกตัวเก่งเร่งเดินทางรอนแรมหมายมั่นไปถึงบางปากเกร็ดอันเป็นจุดนัดหมายอย่างรวดเร็ว
“ อ้ายกบ..ข้าติดใจผลงานของเอ็งในภาคแรก มันส์มากจน อุจจาระพรั่งพรู จึงอยากรบเคียงบ่าเคียงไหล่ด้วยกันอีกสัก ดอก สองดอก"“ ขอบใจเอ็งมากที่ชื่มชม และชักชวนข้ามา ” 2สหายร่วมอุดมการณ์ "ทำพิธีหลั่งน้ำ..." ท่ามกลางสายลมหนาวเย็นยะเยือกที่โหมกระหน่ำเย็นเจี๊ยบจนกะปู๋หดทั้งสองคน ก่อนแยกย้ายไปพลอดรักรำพันกับหญิงสาวอันเป็นที่รักของแต่ละคน..
" หวัดดีจ๊ะพี่แบงค์ หายหัว"..." ไปซะนานเลยนะ"
เสียงเจื้อยแจ้วดังขึ้น ทางด้านหลังอ้ายแบงค์
"พี่ไม่ได้หายหัว"...." ไปไหนหรอก อีบัวเผื่อน"
อ้ายหนุ่มทุ่งบางบัวทองหันมายิ้มตอบตามันวาวเป็นประกาย
"บัวเผื่อนไหนอ่ะ..? นี่การ์ตูนนะ พี่แบงค์ไม่ค่อยสบายหรือเปล่าเนี่ย"
อีสาวบางปากเกร็ดหน้าง้ำตอบเสียงเขียว
"โทษทีจ๊ะ ยอดยาหยี..พี่นอนน้อยไปหน่อย เดี๋ยวเราไปคุยกันต่อทางโน้นเถอะนะ แม่บัวตอง ทูนหัวของพี่" "การ์ตูนย่ะ.!!..บัวตองอะไรของพี่แบงค์อีกว่ะ เฮ้อ..เดี๋ยวมันคงมีบัวบ้าบัวบออะไรโผล่มาอีกแน่.."
.................................................................
ณ.อีกฟากหนึ่งของกองฟาง..
ต้องพลัดพรากจากกันกับขวัญพี่ ด้วยวิธีรวบรัดเกินขัดขืน ยอมจํานนทนชํ้าอย่างกลํ้ากลืน กิ๊บสะอื้นรํ้าไห้อาลัยลา
ภาพวันเก่าเรานั่งคลอเคลียเคล้า คอยพะเน้าเอาใจกันอย่างหรรษา
ชื่นอุราหยอกเย้านํ้าหลากมา พี่กบลาจากน้อง ทุกครั้งเอย...
....(ประมาณว่า....แตกแล้วแยกทาง).....
น้ำเสียงแม่นาง."กิ๊บ"..ขับขานต่อว่าอ้ายกบด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ เนื่องจากคราวที่แล้วชายหนุ่มอันเป็นที่รักรีบชิ่งกลับบ้านไม่มีเวลาคลอเคลียเหมือนเคยๆ ทำให้สะท้อนบาดลึกเข้าไปในหัวใจอ้ายกบมันนัก
"แม่กิ๊บเอ๊ยเจ้าจงฟังพี่ให้ดีนะ...หากบุญเก่าเรามีที่ร่วมสร้าง คงไม่ร้างไออุ่นอย่าหุนหัน
พี่เฝ้ารอพ้อหน้าว่าสักวัน ต่างมีกันสวมกอดตลอดกาล..
อย่าน้อยใจไปเลยอีกิ๊บเอ๊ย หัวใจอ้ายกบมันถวิลหาเจ้าทุกเพลานั่นแหล่ะ..."
"แม่ของกิ๊บแกว่าผู้ชายหน่ะเหมือนปลาพอน้ำใหม่มามันก็ไปกับน้ำใหม่ ฉันจึงกลัวนัก"
"เออ ก็จริงของแกอยู่บ้างหรอก แต่ใจพี่หน่ะเห็นว่า น้ำใหม่มันก็น้ำเก่า ไอ้น้ำเก่ามันก็ไหลมาเป็นน้ำใหม่ ..ขึ้นๆลงๆอยู่ในคลองเดียวกันนั้นแหล่ะ กิ๊บเอ๋ยอย่ากลัวเลยพี่ไม่ใช่ปลารักน้ำอย่างว่าหรอกหัวใจพี่มันอย่างตะเข้รักวังถึงน้ำเก่าจะไปน้ำใหม่มันจะมาหรือน้ำมันจะแห้งขอดจนพี่ต้องตายคาวัง ...พี่ก็จะตายอยู่กับกิ๊บคนเดียวจริงๆนั่นแหล่ะ แม่เอ๊ย.."
สองหนุ่มสาวต่างพะเง้าพะงอด ออดอ้อนรำพันกันและกันอย่างหวานซึ้งก่อนจะมุดหายไปในกองฟาง
..................................................................
(มีคำว่าปากเกร็ด..เวลาแต่งกลัวพลาดจังวุ้ย)
กิ๊บกับกบซบอยู่คลอคู่กัน ร่วมสัมพันธ์ทุยรู้อยู่พยาน
(ต่อหน้าไอ้ทุยเลย สุดยอดๆๆ)
หอมผืนนาคอกควายชายคาจาก คันไถลากฝากใจจำได้ไหม
(แหม๊..มีการดมผืนนาน้อยกับไถนาด้วยร้ายจริงๆ)
ต่างกระชากลากถูเคียงคู่ไป ร่วมดวงใจไถหว่านผสานกาย(รุนแรงๆๆ)
ผลักกันขี่ลั่นทุ่งจนรุ่งสาง ชมเดือนพรางพร่างพรายไม่ห่างหาย
(บ๊ะๆๆ สำคัญนักไอ้นี่ขี่ยันเช้าเชียวรึ อิอิ..)
อิงแอบซบจบอยู่คู่เคียงกาย ยังมิวายลืมเลือนเตือนความจำ
..................................................................
"..เฮ้ยไอ้เกลอตะวันโผล่แล้ว..เรากลับกันเถอะ เดี๋ยวใครต่อใครมาเห็นเข้ามันจะไม่งาม.." เสียงอ้ายแบงค์โผล่มาจากอีกฟากของกองฟางพร้อมตะโกนบอกสหายรักของมัน ทั้งคู่จึงต้องจากจรนวลน้องบ้านนาด้วยความอาลัย...
" มีหัวใจแต่ไร้รัก เสมือนมีร่างแต่ไร้วิญญาณ.."วาจาอมตะของอ้ายต้าร์เกลอเก่าแห่งทุ่งห้วยขวางเคยพูดกรอกหูเมื่อครั้งอดีต ดังก้องขึ้นในหัวของมันทั้งสอง ถึงวันนี้พวกมันต่างเข้าใจความหมายเป็นอย่างดี...
.....จบตอน........
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น